ประวัติกีต้าร์เบส


         เบส เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย ในทางสากลสามารถเรียกได้ทั้ง electric bass (เบสไฟฟ้า) , electric bass guitar (กีตาร์เบสไฟฟ้า) หรือเรียกสั้นๆว่า bass (เบส) ลักษณะของเบสจะมีรูปร่างใหญ่กว่ากีตาร์ มีโครงสร้างของคอที่ใหญ่และยาวกว่า มีย่านความถี่เสียงต่ำ มีหน้าที่โดยหลักๆในการให้จังหวะ คือคุมจังหวะตาม rhythm, line, pattern และ groove ของดนตรี ในขณะเดียวกันก็สามารถขยายระดับความสามารถการเล่นให้สูงขึ้นตามแนวเพลงและการประยุกต์ใช้ต่างๆ เช่น เทคนิคการ Slap หรือการตบเบส (รวมไปถึงเทคนิคอื่นที่ใช้ร่วมกันกับการ Slap) ในดนตรี Funk, Jazz และอีกหลายแนว การ Tapping การเดิน Improvising การเล่น Harmonics การเล่น Picking เป็นต้น

เบสไฟฟ้าจัดว่าเป็นเครื่องดนตรีที่ถือกำเนิดหลังเครื่องดนตรีอื่นๆในประเภทวงสตริงคือสร้างขึ้นหลัง กีตาร์ กลอง คีย์บอร์ดหรือซินธิไซเซอร์ (รายละเอียดจะมีในหัวข้อประวัติของเบส) เครื่องดนตรีประเภทเบสที่ใช้กันในวงดนตรีและแนวต่างๆก็จะมี เบสไฟฟ้า เบสโปร่งไฟฟ้า fretless bass (เบสไม่มีเฟรต) และ double bass, upright bass บ้างทีก็เรียกกันว่า acoustic bass แต่ก็มีภาษาพูดเรียกกันติดปากสำหรับนักดนตรีบางคนว่า เบสใหญ่
         เบสไฟฟ้าที่ใช้โดยทั่วไปจะมี 4 สาย 5 สาย และ 6 สาย ส่วนสายที่มากไปกว่านี้ก็มีเนื่องจากนักดนตรีบางคนอาจจะออกแบบเพื่อประยุกต์ใช้ทางการเล่นเฉพาะตัว
         เบส 4 สายการตั้งสายตามมาตรฐานคือ E-A-D-G (เรียงจากต่ำ-สูง) เบส 5 สายคือ B-E-A-D-G ส่วน 6 สายคือ B-E-A-D-G-C แต่อย่างไรก็ตามเบสก็ได้ถูกขยายขอบเขตออกไปตามแนวคิดและการประยุกต์ใช้ของมือเบสต่างๆ จำนวนสายก็อาจจะมีอื่นๆอีก เช่น 3 สาย, 7 สาย, 8 สาย ,9 สาย เป็นต้น


ประวัติกีต้าเบส
          การที่เราได้กล่าวถึงเบสนั้น  Bassline  แล้วเริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงการดนตรีมากเลยนะครับ  โดยเริ่มได้ยิน   เช่นในบทเพลงของ   J.S. Bach ระหว่างปี 1685-1750 ซึ่ง bassline   มากขึ้นด้วยนะครับ  มีความ แล้วมีความสำคัญเฉกเช่นเดียวกับในส่วนของ   soprano , alto , tenor   เลยที่เดียว   โดยใน  ดนตรีคลาสสิก  และ  ออร์เคสตรา  เสียงเบสจะถูกกำหนดขึ้นโดยเครื่องดนตรีที่มีชื่อว่า   upright bass   หรือ  bass viola  นี้ด้วยแล้ว ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีตระกูลเบสรุ่นแรกในโลก
      ต่อมาเมื่อเริ่มมีดนตรีของคน  แอฟริกัน  นะค่ะคือ  Ragtime  (ดนตรีแนวเต้นรำของชาวแอฟริกัน)  และ New Orleans Jazz  ด้วยโดยมีอุปกรณ์เสียงต่ำที่เล่นจาก   brass bass   และ   tuba  เนื่องจากเป็นการเล่นโดยใช้ลมหายใจในการเป่า ที่ใช้  ทูบา  ในการเล่นเป็นจังหวะ 2 beat ใน 1 bar และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเพลง jazz และเพลงเต้นรำด้วยนะครับ
     เมื่อเพลงแจ๊ซมีการพัฒนาและเกิดการวิวัฒนาการขึ้นเป็นจังหวะ swing ในปี 1935 การแต่งและการเรียบเรียงดนตรีจึงเกิดมีความซับซ้อนและยุ่งยากตามมา   แต่ในขณะนั้น  ได้มีในงานดนตรีที่มีชื่อเสียงในวงการเพลงแจ๊ซ   เช่น Duke Ellington , Count Basie and Benny Goodman  เป็นจังหวะแบบ  4 จังหวะ  ใน 1 ห้องเพลงด้วย แล้วถ้าเริ่มเป็นที่แพร่หลายและนำไปใช้กันมากขึ้นนั้น   ตั้งแต่ที่   brass bass  ไม่สามารถที่จะเล่นในจังหวะนี้ได้ นะค่ะAcoustic upright bass  จึงได้เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ขึ้นมาแทนที่   brass bass   อย่างไรก็ตาม   Acoustic upright bass   ก็มีข้อจำกัดของมันเองอยู่เหมือนกันนะ  แล้วในเรื่อง  ของลำตัวที่ค่อนข้างใหญ่พกพายาก   และมีน้ำเสียงที่ไม่สามารถดังดีพอและเหมาะสมในการเล่นร่วมกับวงดนตรีประเภท   Big band  นั้นมีการทำเครื่องดนตรีหลากหลายชิ้น เช่น  brass  จำนวน 7 ตัว , เปียโน , กีต้าร์  กลอง  สิ่งนี้จึงมีการเกิดปัญหาต่อในหมู่คนเล่นเบส
          ต่อมาได้มีจึงมีจุดเริ่มต้นของการประดิษฐ์   เบสไฟฟ้าขึ้นมาตัวแรกของโลกนะครับ   เบสไฟฟ้าตัวแรกของโลก  ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาโดย   Clarence Leo Fender   ในปี 1951 จากบริษัท   Fender Musical Intrumental Company   (บริษัทเดียวกับที่ผลิตกีตาร์ Fender)  ร่วมกันผลิตเบสที่มีชื่อรุ่นว่า   Precision bass  โดย  Leo Fender  นะได้ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อการแก้ไขปัญหาของเบสรุ่นเก่าที่มีปัญหาในเรื่องของเสียงและขนาดที่ใหญ่ของ Acoustic upright bass   ซึ่งเขาได้ตั้งชื่อรุ่นว่า   Precision bass   เพื่อให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมาย   ที่แปลว่า “เบสที่มีความกระชับ ”   โดยมีการใช้เฟร็ทติดลงบน   Fingerboard  และ  แก้ไขในเรื่องของน้ำเสียงให้ดีขึ้นมากเลยทีเดียวแหละครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก   th.wikipedia.org

2 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากครับ ข้อมูลมีประโยชน์อย่างมาก

    ตอบลบ
  2. ข้อมูลนี้พิมพ์ขึ้นเมื่อไรครับผม

    ตอบลบ